บ้านแบบเรือนเพาะชำ ทำแบบไหนดี
บ้านแบบเรือนเพาะชำ จริงอย่างที่คุณ ravio จากเว็บไซต์พันทิปว่า ไว้ว่าสำหรับมือใหม่ ฝึกหัดปลูก อาจต้องอาศัยโรงเรือนเพาะชำ ไว้เพาะต้นกล้า เขาก็เลยมาแนะนำ แบบโรงเรือนเพาะชำแบบต่างๆไว้เป็น หนทางสำหรับคนที่อยากปลูกต้นไม้ ทดสอบเลือกกัน มองดูนะคะ บางอ้อนแอ้นครั้งบางทีอาจจะเหมาะสมกับ เมืองหนาวล้นหลามไปหน่อย แต่สำหรับพืช บางประเภทโรงเรือนเพาะ ชำก็จะต้องเช่นเดียวกัน บ้านรูปตัว U สำหรับผู้ที่มีความคิดริเริ่ม เพาะปลูกพืชมือสมัครเล่น หรือมืออาชีพ การปลูกพืช ต้นไม้ ดอกไม้ เกิดเหตุการพักผ่อนหย่อนใจ พักผ่อนหย่อนใจ แล้วก็เป็นงานว่างที่ เพลิดเพลินเจริญใจอย่างหนึ่ง ยิ่งถ้ามีผักผลไม้ ไว้เก็บเกี่ยวใช้สอยกินได้ทั้งปี ภายในบริเวณบ้านที่ ทำสวนเป็นงานที่ทำ ในเวลาว่างยิ่งดีงาม การเพาะเม็ด ต้นอ่อน กล้าอ่อน ของพืชมีดอกไม้ประดับ การมีโรงเรือนเพาะ ชำจะช่วยได้มากในหลายด้าน ตั้งแต่การควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสงอาทิตย์ ฯลฯ โรงเรือนเพาะชำ ภายในบ้านตามแบบ ข้างล่างนี้ จะมีหลายขนาด ตามความเหมาะสมและการ ใช้แรงงาน ตั้งแต่ขนาดโต๊ะทำงานจนกระทั่ง ไปถึงห้องขนาดใหญ่ ทำจากวัสดุต่างๆที่ ส่วนใหญ่เป็นของใช้ เกินพอ หรือนำกลับมาเปลี่ยนแปลง ปรับแต่งดัดแปลงแก้ไข ใช้ใหม่ได้อีกครั้ง เป็นต้นว่า วงกบหน้าต่าง บานประตู หน้าต่าง ที่รื้อถอนมาตั้งทิ้งไว้ ไม้เก่าๆด้านในภาย พลาสติก ขวดน้ำ ฯลฯ ของใช้ของสอยเหล่านี้สามารถเอามา DIY เป็นโรงเรือนเพาะชำ ที่สามารถใช้งาน ได้โดยแก่เป็นเวลายาวนาน และคงทนเหมาะสมกับ การใช้แรงงานสวน ด้านในภาย
บ้านแบบเรือนเพาะชำ โชว์ตัวตนของแฟนต้นไม้
ธรรมชาติเป็นหัวใจของการดำรงอยู่ คำนี้มองไม่เกินจริงเลย เนื่องจากพวกเราต่างรู้ดีว่าถ้าเกิดรอบกายพวกเราขาดต้นไม้ อากาศบริสุทธิ์ สายลม สายน้ำ ก็ดำรงอยู่มิได้ ในเหตุการณ์ที่โลกร้อนปีนต้นไม้น้อยลงผู้คนก็คร่ำครวญหาการอยู่ร่วมกับธรรมชาติเยอะขึ้น ไม่ว่าจะเพิ่มการจัดตกแต่งสวนหน้าบ้าน ข้างหลังบ้าน หรือแม้กระทั้งข้างในตึกเลยแบบ inside out – outside in แล้ว จะเป็นเยี่ยงไรถ้าเกิดพวกเราใช้ฝาผนังบ้านเป็นหลักที่ชี้ขอบเขตที่อยู่ที่อาศัยไปพร้อมๆ กับเป็นหลักที่ปลูกต้นไม้เป็นสวนบนฝาผนังขนาดใหญ่ บทความนี้พวกเราจะพาไปดูตัวบ้านที่เน้นย้ำตัวตนของแฟนต้นไม้ มิได้สร้างหรูหราเมื่อมองดูแวบแรกราวกับเรือนเพาะชำที่เต็มไปด้วยไม้ห้อยกันครับผม บ้านผนังช่องลม วางแบบ : 1-1 Arch รายละเอียด : บ้านไอเดีย
การออกแบบ บ้านแบบเรือนเพาะชำ
บ้านนี้เป็นกลยุทธ์ก่อสร้างบ้านใหม่ในเมืองฮิงาชิอุระ จังหวัดไอจิ ญี่ปุ่น พื้นที่ใช้สอย 166.79 ตารางเมตร เจ้าของบ้านดำรงชีพฟาร์มพืชเขตร้อนทั้งยังครอบครัว สำหรับบ้านพวกเราข้อบังคับทำให้เขตก่อสร้างบ้านรวมทั้งเขตทำการเกษตรแยกออกมาจากกัน แล้วก็มีเอกสารสิทธิ์คนละแบบอย่าง แม้กระนั้นในเขตชนบทของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่ทำการเกษตรรวมทั้งที่อยู่ที่อาศัยตั้งอยู่ชิดกันรวมทั้งผสมกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อย่างผู้ครอบครองแผนการนี้ที่ได้ซื้อที่ดินที่มีที่ดินสามชนิด อาทิเช่น “ที่ดินที่พักอาศัย” “พื้นที่ทำการเกษตร (มีถนนหนทาง)” แล้วก็ “พื้นที่ทำการเกษตร (ไม่มีถนนหนทาง)” แล้วคนเขียนแบบก็ทำจัดแจงวางแบบแปลน มองรูปทรงระหว่างบ้านรวมทั้งโรงเรือนให้ตอบปัญหาที่สุด อย่างที่พวกเราทราบว่าการทำงานเกษตรควรจะมีความเลอะเทอะเปื้อนเปรอะ ปรารถนาพื้นที่ลานสำหรับเพาะชำ รดน้ำ ดูแลต้นไม้ นักออกแบบก็เลยเสนอภูมิทัศน์ใหม่ของพื้นที่การกสิกรรมในต่างจังหวัดรวมทั้งที่อาศัย ให้มองมีความใกล้เคียงกันและก็ใช้งานได้ง่าย โดยเลือกอุปกรณ์ธรรมชาติอย่างหิน ก้อนกรวด มาเป็นองค์ประกอบ พร้อมด้วยเว้นพื้นที่ว่างรอบที่ดินหลายจุดให้ทำเกษตรไปพร้อมๆกับเป็นจุดพักในบ้าน นักออกแบบสร้างตึกแยก เป็น 3 ส่วนหมายถึงบ้าน โรงเก็บของเกษตร และก็โรงเรือนให้อยู่ในรอบๆเดียวกัน มีทางเดินเล็กๆแยกเป็นสัดส่วน บริเวณหุ้มห่อเปลือกบ้านด้วยเหล็กตาข่ายสีขาว ที่เว้นแต่ปฏิบัติภารกิจเป็นเปรียบเสมือนกำแพงรั้วบ้านแล้ว ยังสามารถใช้งานเป็นที่ห้อยต้นไม้ได้ด้วย บริเวณตึกเพาะชำโรยพื้นด้วยก้อนกรวดส่วนเรือนเพาะชำ ทำให้เมื่อใดก็ตามจะต้องรดน้ำหรือชำระล้างเศษดินฝอยละอองน้ำจะไม่กระเด็นไปโดนตัวบ้านให้เสียหาย หลังคากันสาดยื่นออกมามุงสิ่งของโปร่งใสให้ต้นไม้รับแสงสว่างได้อย่างมาก บ้านหลังคาแบน ในตอนที่เจ้าของบ้านไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องฝน โครงตาข่ายที่ล้อมช่วยลดพื้นที่สำหรับในการรักษาดูแลต้นไม้ไปได้มาก ถือว่าเป็นการออกแบบที่คุ้มแบบยิงปืนนัดหมายเดียวได้นกหลายตัว อีกด้านหนึ่งเป็นตึกที่อยู่ที่อาศัย วางแบบตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีพื้นที่ข้างๆห้องรับแขกเปิดประตูกระจกบานใหญ่ออกมานั่งแขวนขาดูสวนห้อยที่แขวนเอาไว้เต็มฝาผนังเหล็กโปร่งๆ คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ความมีชีวิตชีวาจากต้นไม้ แล้วก็ยังเพิ่มร่มเงาตัดทอนความร้อนแรงของแสงสว่างในช่วงเวลากลางวัน ไม้ใบไม้รากอากาศที่ห้อยเอาไว้ยังช่วยกรองฝุ่นผง ควัน และก็เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านได้ด้วย บ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้กระทั่งแทบจะแยกไม่ออกว่าเป็นบ้านในสวนหรือสวนในบ้าน ทั้งเป็นเรือนเพาะชำด้วย ทำให้พื้นที่ชีวิตแล้วก็พื้นที่ปฏิบัติงานเปลี่ยนเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของกันและกันอย่างเกื้อหนุน พื้นที่ดำรงชีวิตในบ้านมีจังหวะของช่องเปิดประตูหน้าต่างบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ทำให้รับแสงสว่างรับลมแล้วก็ทิวทัศน์ข้างนอกได้รอบด้าน เป็นวางแบบการเชื่อมต่อของชีวิตรวมทั้งภูมิทัศน์ให้การเกิดสำหรับการดำรงชีวิตใหม่ๆที่อยู่เหนือข้อกำหนดของที่ดิน
เรือนเพาะชำ คือ อะไร?
เรือนเพาะชำเป็นสถานที่ที่ใช้เพื่อดูแลบรรดาเหล่าต้นกล้าต้นอ่อน กิ่งตอนกิ่งชำ ของพวกไม้ผลรวมทั้งไม้ยืนต้น แล้วก็ไม้พุ่มรวมทั้งพืชดอกไม้ประดับต่างๆที่จะจำต้องปลูกเพาะแพร่พันธุ์ บ้านผนังไม้แบบนอร์ดิก แล้วก็จะต้องมีการดูแลและรักษาเป็นพิเศษในสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติที่มีการเปลี่ยนของแสงตะวัน อุณหภูมิ ลม รวมทั้งจำนวนฝนที่ไม่บ่อยนัก แล้วก็นอกจากนั้นเรือนเพาะชำยังเป็นประโยชน์ต่อการปลูกพืชอีกหลายประการ อย่างเช่น
เป็นสถานที่เพาะเม็ดแล้วก็ปักชำ และก็เพาะเลี้ยงไม้อ่อน เป็นสถานที่สำหรับเลี้ยงพันธุ์พืชที่ปรารถนาความชุ่มชื้นสูง แต่ว่าอยากแดดแม้กระนั้นพอเหมาะ เป็นที่เก็บรักษาพืชพันธุ์ไม้ให้ไม่มีอันตรายแล้วยังปลอดภัยจากสัตว์นักทำลาย และก็เหล่าศัตรูพืช เป็นศูนย์รวมพันธุ์พืช แล้วก็พักฟื้นพันธุ์พืชที่เอามาใหม่ เป็นที่เก็บเมล็ดพันธุ์ วัสดุและก็เครื่องมือการเกษตร หรือจัดเป็นที่โชว์ผลิตภัณฑ์ พืช พรรณไม้ ต่างๆ
ลักษณะเรือนเพาะชำที่ใช้เพื่อการแพร่พันธุ์พืชแบบต่างๆ
ในสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ มีการแปรผันของแสงอาทิตย์ อุณหภูมิ ลม แล้วก็จำนวนฝนที่ไม่บ่อยนัก ทำให้การชุบเลี้ยงพืชให้มีการเจริญวัยได้อย่างเต็มเปี่ยม ก็เลยเป็นได้อย่างไม่มีสมรรถนะนัก โดยเฉพาะกับองค์ประกอบที่ใช้เพาะพันธุ์ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาส่วนต่างๆขึ้นมาฯลฯใหม่ หรือต้นใหม่ที่ยังไม่แข็งแรงบริบูรณ์ดี จะต้องได้รับการดูแลภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เยี่ยมที่สุด โดยเหตุนั้นเรือนเพาะชำก็เลยมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับเพื่อการแพร่พันธุ์พืชอย่างมากมาย โรงเรือนเพาะชำนั้นมีหลายแบบอีกทั้งแบบซึ่งสามารถควบคุมเหตุดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นได้ทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ตัวอย่างเช่น การปรับอุณหภูมิข้างในโรงเรือน มีหลอดไฟฟ้าให้แสงไฟรวมทั้งควบคุมความชื้นสัมพัทธ์อากาศได้ ในการเพาะพันธุ์ต้นที่อยากสิ่งแวดล้อมเฉพาะอย่าง ส่วนเรือนเพาะชำอีกแบบหนึ่งใช้สำหรับชุบเลี้ยงต้นที่แก่น้อย แล้วก็ยังไม่แข็งแรงดีให้สามารถเติบโตได้ถัดไป มีการปรับสิ่งแวดล้อมได้บ้าง ก็เลยอาจมีเพียงการกรองแสงสว่างหรือซ่อนแสงสว่างให้ต้นกล้าเพื่อรอคอยไว้ย้ายปลูกเอาไว้ภายในแปลงที่โล่งแจ้งถัดไป
เลือกหลังคาโรงเพาะชำไม่ถูก ผลิตผลบางทีอาจมิได้ตามเป้า
“โรงเพาะชำ” หรือ “เรือนเพาะชำนั้น” นับว่าเป็นสถานที่สำคัญสำหรับคนทำงานทำการเกษตรเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุว่าเปรียบเสมือนเป็นแหล่งสร้างรายได้ที่เติบโตอย่างมั่นคงถาวรยืนนาน แม้กระนั้นการจะมีผลให้การปลูกผักผลไม้ ปลูกพืชดอก
ไม้ประดับในเรือนเพาะชำเห็นผลผลิตดีมีคุณภาพอย่างที่คาดหวังนั้น สิ่งที่จำเป็นต้องตั้งใจไม่ใช่เพียงแค่การรดน้ำ ลูกพรวนดิน ให้ปุ๋ยเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นความเหมาะสมของเรือนเพาะชำ ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้พืชเติบโตเจริญมากน้อยแค่ไหนด้วย โดยเหตุผลก็มาจาก “จำนวนของแสงสว่าง และก็ความร้อน” ด้านในเรือนเพาะชำนั่นเอง
โรงเพาะชำควบคุมแสงสว่างไม่ดี พืชก็เติบโตไม่ดีได้ผลผลิตที่ดีมิได้ พวกเราต่างก็ทราบกันดีว่า พืช ผัก ผลไม้ ดอกไม้ทุกประเภทนั้น ล้วนใช้แสงสว่างจากดวงตะวันสำหรับในการเติบโตร่วมกันทั้งปวง แม้กระนั้นดังนี้บางโอกาส พวกเราก็บางทีก็อาจจะเผลอลืมไปได้ว่า
“แสงสว่างที่มากจนกระทั่งเหลือเกิน อาจจะก่อให้พืชไม่เติบโตได้ดิบได้ดีอย่างที่ควรเป็น” หรือในเวลาเดียวกัน “แสงสว่างที่ไม่พอ ก็อาจจะก่อให้พืชแคะแคระรวมทั้งได้ผลผลิตที่ดีกับพวกเรามิได้” ด้วยเหตุนั้นเอง “หลังคาโรงเรือนเพาะชำ” บ้านแบบเรียงหน้ากระดาน
ตลอดจนการออกแบบตัวตึกของเรือนเพาะชำ ก็เลยจึงควรละเอียดลออในเรื่องเกี่ยวกับการเลือกใช้ “แผ่นโปร่งแสง” ที่มีคุณลักษณะสำหรับการควบคุมแสงสว่างให้ส่องผ่านในจำนวนที่สมควร พอเพียง ต่อประเภทของพืชที่พวกเราปลูกด้วย เพื่อพืชโดนแสงในจำนวนที่มีคุณภาพ แล้วก็สามารถใช้ประโยชน์เพื่อการเติบโต เพื่อให้ผลผลิตเจริญอย่างที่พวกเราอยาก
หลังคาโรงเรือนไม่กัน UV มีผลไม่ดีกับพืช แสงไฟจากพระอาทิตย์ที่พืชใช้ประโยชน์สำหรับในการสังเคราะห์ด้วยแสงนั้น ตามที่เป็นจริงและจากนั้นก็เกิดอันตรายแฝงอยู่ด้วย เพราะว่ารังสี UV ที่อยู่ในแสงสว่างจากดวงตะวันนั้น เป็นสิ่งที่พืชไม่สามารถที่จะใช้ประโยชน์ได้
แถมยังทำร้ายต่อพืชได้อีกด้วย โดยถ้าหากพืชโดนแสงที่มีรังสี UV มากจนเกินความจำเป็น ก็จะนำมาซึ่งการทำให้ขั้นตอนสำหรับการสังเคราะห์ด้วยแสงถูกยั้ง ทำให้ไม่อาจจะสังเคราะห์ด้วยแสงได้อย่างมีคุณภาพ
ทำให้เกิดผลกระทบต่อการเติบโตที่ไม่ดีเหมือนปกติ ทั้งยังยังส่งผลทำให้ DNA และก็ส่วนประกอบต่างๆในพืชแตกต่างจากปกติผิดเพี้ยนไปด้วย ซึ่งในจุดหมายก็จะส่งผลให้เกิดการที่พืชไม่สามารถที่จะได้ผลผลิตได้อย่างที่จะต้องเป็น
ตลอดจนผลิตผลที่ได้ออกมาก็จะด้อยคุณภาพอย่างที่เกษตรกรมุ่งหวัง โดยเหตุนั้นเอง สำหรับเพื่อการเลือกแผ่นโปร่งแสง ที่ใช้เป็นหลังคาโรงเรือนเพาะชำ ก็เลยควรต้องคิดถึงคุณลักษณะสำหรับในการปกป้องรังสี UV เป็นหลักด้วย เพื่อผักของพวกเราไม่มีอันตราย แล้วก็เติบโตเติบโตได้อย่างมาก
*จุดเด่นของการแต่งสวนไม้ห้อยมีหลายประการ เช่น การลดพื้นที่จัดสวนลงทำให้บ้านมองเป็นระเบียบแล้วก็สะอาด การเปลี่ยนแปลงชูย้านทำเป็นง่าย ต้นไม้ที่ห้อยบนฝาผนังยังช่วยกรองฝุ่นละออง ควัน พิษที่ลอยล่องกลางอากาศ เป็นเหมือนด่านธรรมชาติที่ทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น ดังนี้จะต้องตั้งใจอุปกรณ์ส่วนประกอบสำหรับห้อยให้มีความแข็งแรง ไม่ขึ้นสนิมง่าย เนื่องจากว่าจำเป็นต้องรับน้ำหนักรวมทั้งความชื้นแฉะแทบตลอดระยะเวลา
อ่านต่อเพิ่มเติม: Pool Villas Pasak . sale villa . Phuket Villa . Pool Villa . พูลวิลล่าภูเก็ต . โครงการบ้านภูเก็ต . บ้านจัดสรร . พูลวิลล่าภูเก็ต ราคาถูก . ซื้อวิลล่าภูเก็ต