แบบบ้านพูลวิลล่าชั้นเดียว

แบบบ้านพูลวิลล่าชั้นเดียว

แบบบ้านพูลวิลล่าชั้นเดียว พูลวิลล่า (Pool Villa) เป็นบ้านพักที่มาพร้อม กับสระว่ายน้ำส่วนตัวเท่านั้น ไม่มีสระน้ำไม่ได้ โดยส่วนใหญ่บ้านพัก ในรูปแบบนี้จะมีอยู่มากในต่างจังหวัด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ธรรมชาติ

แบบที่ 1 บ้านพูลวิลล่าคอนกรีต

แบบบ้านพูลวิลล่าชั้นเดียว

Casa Calm เพียงแต่ได้ยินชื่อ ก็รู้สึกถึงความสงบสบาย ซึ่งก็ไม่เกินความจริง เพราะโครงการนี้ เกิดจากความปรารถนาของครอบครัวหนึ่ง ที่อยากจะมีพื้นที่พักผ่อนสบายๆ ในฤดูร้อนที่บ้านเกิด ซึ่งอาจกลายเป็นที่อยู่อาศัย ถาวรของพวกเขาในอนาคต ด้วยสถานที่ตั้งของโครงการ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ประกอบกับ เจ้าของเป็นวิศวกรเหมืองแร่ จึงได้นำความหลงใหลในคอนกรีตมาเป็นโจทย์ หลักของวัสดุในการก่อสร้างบ้าน ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ ก็เป็นหน้าที่ของสถาปนิกที่จะทำให้บ้านสวยงาม และสมดุล

นอกจากการ request เรื่องวัสดุหลักแล้ว เจ้าของยังต้องการพื้นที่ จัดสวนขนาดใหญ่ และห้องครัวที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้อีกด้วย เมื่อต้องเจอกับโจทย์เหล่านี้ Mateus Monteiro สถาปนิกกล่าวว่า แม้โจทย์จะเหมือนง่ายแต่ ก็ต้องพูดคุยในรายละเอียดให้มากที่สุด เพื่อให้บ้านตอบสนองความต้องการ และความฝันของพวกเขาอย่างสมบูรณ์ บทสรุปจึงออกมาเป็นพูลวิลล่า 2 อาคารเรียงตั้งฉากเป็นตัว L ดีไซน์หลังคาแบนคอนกรีตที่มีฟาซาดไม้ เพื่อให้บ้านดูผ่อนคลายขึ้น ไม่ดิบกระด้างเกินไป แบบบ้านพูลวิลล่า

แบบบ้านพูลวิลล่าชั้นเดียว

เมื่อเจ้าของต้องการสวนขนาดใหญ่ ทีมงานก็จัดใหญ่อย่างจุใจ โดยกระจายสวนอยู่ตามจุดต่างๆ ของบ้านถึง 5 จุด เริ่มจากบริเวณใช้งานกลางแจ้งรอบ สระว่าบน้ำที่อยู่ใจกลางระหว่าง 2 อาคาร รวมถึงกรอบของบ้านที่มีต้นปาล์ม ฟิโลเดนดรอน คล้าซิการ์ และไม้ใบเขียวอื่นๆ ช่วยลดความแข็งของอาคาร เพิ่มความเขียวสดชื่นตลอดทางเดิน

อาคารสองส่วนนี้มีฟังก์ชันต่างกัน ในอาคารติดกับสระว่ายน้ำจะเป็น พื้นที่สาธารณะ และกึ่งสาธารณะ อธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ คือ จากสระว่ายน้ำขึ้น มาจะเป็นห้องเปิดกึ่งกลางแจ้งโล่งๆ ที่มีครัวเปิด ไอส์แลนด์ตัวใหญ่ โต๊ะทานข้าว มุมนั่งเล่นที่โซฟาสีน้ำเงิน เหมาะกับรรยากาศหน้าร้อนสุด ๆ แต่ถ้าวันไหนมีแสงแดดรุนแรงเกินไป หรือฝนตกหนักก็สามารถดึงผ้าใบขนาดใหญ่ ที่ติดตั้งไว้ลงมาบังได้

ลึกเข้ามาด้านในจึงเป็นพื้นที่ ส่วนรวมแบบกึ่งสาธารณะ หมายถึงพื้นที่ใช้งานของครอบครัวที่มี ความเป็นส่วนตัวขึ้น บริเวณนี้ออกแบบแปลน open plan รวมฟังก์ชันหลักในการใช้ชีวิตคล้ายๆ กับโซนด้านนอก คือ มีห้องนั่งเล่น ครัว และพื้นที่ทานอาหาร เรียงอยู่ในบริเวณเดียวกัน ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน และยังทำให้รู้สึกว่าบ้านโล่งโปร่ง แต่ยังพอมีความเป็นสัดส่วน

ด้วยความที่เจ้าของบ้าน เป็นน้องของสถาปนิก การตกแต่งบ้านจึงง่ายขึ้นมาก เพราะรู้จักรู้ใจกันเป็นอย่างดี ในโถงทางเข้าตกแต่งด้วยภาพถ่ายของมหาวิทยาลัยใน Ouro Preto ซึ่งเป็นเมืองโปรดของทั้งคู่แล้ว และถัดจากอาร์มแชร์หนังตัวสวย  Mole Armchair ฝีมือการออกแบบโดย Sérgio Rodrigues ก็มีภาพวาดสวย ๆ แปลกตาบนผนังไม้ระแนงที่ซ่อนฟังก์ชันบานตู้และประตูเอาไม้อย่างมิดชิด นอกจากนี้ยังมีภาพถ่ายของเมืองที่ถ่ายโดย Z. Zurika งานประติมากรรมจากไม้ หินสบู่ และแจกันเซรามิก ที่ทำให้พื้นที่ทั้งหมดมีเรื่องราว บ้านชั้นเดียว

ห้องนั่งเล่นมีพื้นคอนกรีต และเพดาน ล้อมรอบด้วยแผ่นไม้ระแนง ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบาย บ้านมีช่องเปิดขนาดใหญ่เป็นระยะ เพื่อรับแสงจากธรรมชาติ และตกแต่งภายในด้วย วัสดุธรรมชาติโทนสีเอิร์ธโทน มีต้นไม้เขียวๆ ประดับในทุกจุด เพื่อให้สภาพแวดล้อมทั้งหมด ชวนให้นึกถึงสวน พร้อมกันนี้ก็มีการจัดสวนภายนอกโดย Flávia D’Urso ที่มองเห็นพื้นที่ทางสังคมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านที่นั่งเล่น ห้องทานอาหาร และอีกจุดที่หลังครัว

ตกแต่งภายในด้วย วัสดุธรรมชาติโทนสีเอิร์ธโทน

ห้องครัวมีสวนสวยล้อมรอบด้วย สวนตามคำขอของผู้พักอาศัย จะเห็นว่ามีผนังกระจกตรงข้างๆ โต๊ะทานข้าว มองออกไปเป็นคอร์ทเล็ก ๆ ที่แทรกระหว่างอาคาร และที่หลังเคาน์เตอร์ครัว ก็มีผนังกระจกขนาดใหญ่ มองออกไปเห็นสวนกว้างๆ ด้านหลังได้ชัดเจน ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอยู่ จุดไหนก็บ้านก็เรียกได้ว่า “ไม่ขาดสวน” เลยจริงๆ
ครัวและห้องนั่งเล่นกึ่งกลางแจ้ง

สบู่ เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่ถูกใช้มากในบราซิล และบ้านหลังนี้ด้วย ส่วนของสระว่ายน้ำก็ทำด้วยหินสบู่ และหินที่ว่านี้จะปรากฏขึ้นอีกครั้ง เป็นไฮไลท์ในอ่างอาบน้ำที่แกะสลั กเป็นพิเศษสำหรับคู่รักที่เป็นเจ้าของบ้าน

หินเป็นวัสดุธรรมชาติที่หลายๆ บ้านนิยมใช้ นอกจากหินอ่อน หินแกรนิต ที่เราคุ้นตาดี ก็ยังมีชนิดหินอื่นๆ ที่ใช้ในบ้านได้ อย่างในบราซิลจะนิยมใช้หินสบู่ (Soapstone) ซึ่งหินแปรชนิดหนึ่งเนื้อสารประกอบ ด้วยแร่ทัลก์เป็นส่วนใหญ่ มีเนื้ออ่อน เอาเล็บขูดเป็นรอยได้ง่าย และลื่นมือคล้ายสบู่

ปัจจุบันก็นิยมนำ มาทำท็อปเคาน์เตอร์ และอ่างซิงค์ หินสบู่มีข้อดีที่ทนความร้อน คราบเปื้อน และกรดด่างต่างๆ ได้ดี แต่ก็สามารถแตกร้าวได้ง่าย และการดูแลรักษาจะยุ่งยากเล็กน้อย คือ ต้องใช้น้ำมันที่มี ส่วนผสมของน้ำแร่มาเช็ดทำความสะอาด เพื่อไม่ให้สีของหินเปลี่ยนไปตามเวลา

แบบที่ 2 บ้านพูลวิลล่ากลางธรรมชาติ สไตล์เขตร้อนชื้น

บ้านพูลวิลล่ากลางธรรมชาติ สไตล์เขตร้อนชื้น

ตอนที่หน้าหนาวยังมาไม่ถึง เราก็คิดแต่ว่าเมื่อไหร่หนอลม หนาวจะมาเยือน แต่พอร่างกายปะทะลมหนาวเข้าจริง ๆ ก็เริ่มกลับไปคิดถึงกลิ่นอายความสดชื่นมี ชีวิตชีวาของฤดูร้อนกันอีกแล้ว แน่นอนว่าช่วง Summer ไม่มีที่ไหนดีไปกว่าการหลบไปท่องเที่ยว ตามสถานที่ธรรมชาติ

ซึ่งจะเป็นที่ไหนก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน บางคนขอปลีกตัวเข้าป่า แต่บางคนขอเริงร่าอยู่ริมทะเลดีกว่า และถ้าใครชอบอย่างหลังต้องถูกใจวิลล่าในแคริบเบียนที่เห็นปุ๊บรู้สึกเย็นสบายผ่อนคลายปั๊บแน่นอน

Caribbean Courtyard Villa ตั้งอยู่ในเมือง Puerto Viejo ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ ของคอสตาริกา โครงการบ้านพักตากอากาศขนาด 495 ตร.ม. นี้ ซ่อนตัวอยู่ในป่าบนพื้นที่ ลาดเอียงใกล้หาดชิกีตา โดยแนวคิดหลักในการออกแบบ คือ การสร้างพาวิลเลียนที่ ดูโปร่งสบายโอบรับบรรยากาศเขตร้อน ในขณะเดียวกันก็ผสมผสานกับป่า สร้างความรู้สึกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว กันผ่านลานภายใน Studio Saxe จึงได้ลงมือสานวัสดุธรรมชาติ ออกมาเป็นพูลวิลล่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขตร้อนใน ป่าริมชายฝั่งทะเลที่แสนสดชื่น

บ้านต้นไม้ล้อมรอบ

วัสดุที่ใช้พยายามเน้นที่มาจากท้องถิ่น ไม่แปลก ไม่แหวกแนวมาก เพื่อให้สถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นกลมกลืนกับบริบทแวดล้อม เริ่มตั้งแต่ทางเข้าที่เลือก แผ่นหินมาเป็นกำแพง ประตูไม้มีหลังคากันสาดโครงสร้างเหล็กติดตั้งไม้รแะแนงช่วยกรองแสงแดด เป็นการต้อนรับเข้าสู่โลก อีกใบที่อบอวลด้วยคำว่า “ธรรมชาติ”

กลยุทธ์การออกแบบจะ เป็นการรวมกลุ่มอาคารโปร่ง ๆ เหมือนศาลา มีทั้งหมด 5 ศาลา ส่วนศาลาเล็ก ๆ 4 หลังที่อยู่ในพื้นที่ระดับต่ำกว่าเป็นโมดูล รูปทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกัน ภายในเป็นห้องพักที่มีห้องนอนและห้องน้ำ ในศาลาที่อยู่สูงกว่าเป็นอาคารใหญ่ใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง เป็นห้องอาหารและจุดบริการ

โดยจัดวางให้ทุกอาคารเรียงล้อมสระว่ายน้ำ และพื้นที่สันทนา การกลางแจ้งที่อยู่ตรงกลาง แต่ละอาคารจะคลุมด้วยหลังคารูปสามเหลี่ยมติดตั้งไม้ระแนง สำหรับให้ไม้เลื้อยในอนาคต

สระว่ายน้ำ

แขกที่เข้าพักจะใช้พื้นที่หมุนเวียนไปตามศาลาต่างๆ โดยการเดินลอดใต้ซุ้มระแนงไม้เลื้อย ที่สร้างจากโลหะและไม้คอยพรางกันแดดให้  พื้นที่กึ่งกลางแจ้งที่มีเหลือเฟือ ทำให้แต่ละคนจับจองนั่งเล่น นอนเล่นอาบแดด ในช่วงเวลาที่แสงอบอุ่นพอดี ๆ หรือจะนั่งชิงช้าหวายสานแกว่ง ไปมาก็น่าสนุก สำหรับคนที่อยากลง เล่นน้ำก็เพลินแหวกว่ายได้ในสระน้ำขนาดใหญ่ รองรับการเล่นพร้อมกันหลาย ๆ คน เมื่อรู้สึกเหนื่อยแล้วอยากกลับห้อง พักก็เดินหันกลับไปเพียงไม่กี่ก้าว

ในอาคารส่วนกลางสำหรับให้ ผู้เข้าพักใช้งานสาธารณะ จะเป็นหลังคาจั่วตกแต่งฝ้าเพดานเป็น แผ่นไม้สีน้ำตาลแบบสีน้ำผึ้ง ภายในตกแต่งด้วยวัสดุที่ เป็นธรรมชาติสีเอิร์ธโทนและโทนสีกลาง ๆ สะดุดตากับโคมไฟแขวนงานจักสาน เก้าอี้หวาย พรมสานจากผักตบชวาทรงกลม รวมทั้งการตกแต่งด้วยผ้าทอ ทำให้บรรยากาศอบอุ่นอบอวล ด้วยความผ่อนคลาย ผนังทั้งสองด้านเปิดออกได้หมด จึงไม่ยากที่จะเชื่อมต่อภูมิทัศน์ โดยรอบเข้าสู่ภายในอย่างเต็มที่

ห้องนอนแต่ละห้องจะเปิดเข้า ไปใช้งานตรงลานสาธารณะได้ แต่ก็ใส่ความเป็นส่วนตัวด้วย การจัดตำแหน่งประตูทางเข้าที่เป็นส่วนตัว ด้านที่หันเข้าสู่ลานไม่มีหน้าต่างแต่ ใช้วิธีใส่ช่องแสงใต้เพดานเป็นแนว ยาวรอบห้องเพื่อรับแสง ส่วนด้านหลังจะเป็นประตู กระจกบานสไลด์เปิดได้กว้าง แต่ละห้องชุดมีลานเฉลียงส่วนตัว ที่ยกพื้นสูงลอยตัวเหนือพื้นดิน หันออกสู่สวนและวิวป่ารอบ ๆ ทำให้เจ้าของห้องรู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัว

ภายใน

คอสตาริกา แปลว่าชายฝั่งทะเลอันอุดมสมบูรณ์ (the rich coast) มีชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันออกติดกับทะเลแคริบเบียน และชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันตกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ภูมิอากาศเป็นแบบร้อนชื้น (tropical) ในบริเวณพื้นที่ราบลุ่ม และมีอากาศแบบอบอุ่นในเขตที่ราบสูงและบริเวณหุบเขา แม้จะบอกว่าเป็นเขตร้อนแต่โดยรวมอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ไม่เกิน 35 องศา แต่จะมีฝนมากกว่า ดังนั้นอาคารจะเน้นการเปิดโล่ง และยกบ้านขึ้นเหนือพื้น เพื่อให้ระบายอากาศร้อนและปล่อยให้ลมไหลผ่านลดความชื้นได้ดี